เคล็ดลับวิธีล้างแก้วเก็บความเย็นให้สะอาด ไร้กลิ่น ใช้ได้อย่างยาวนาน

แก้วเก็บความเย็นมีคุณสมบัติในการเก็บอุณหภูมิได้ดี สามารถใส่เครื่องดื่มได้ทั้งร้อนและเย็น ทำให้เป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ ในการหยิบมาใช้งาน แต่ในการใช้งานแก้วเก็บความเย็น ที่เมื่อใช้ไปนานๆ ก็มักจะมีคราบน้ำ กาแฟ หรือกลิ่นไม่พึงประสงค์ติดอยู่ในแก้วได้ จึงต้องมีการล้างแก้วเก็บความเย็นให้ถูกวิธี เพื่อให้แก้วสะอาด และใช้ได้นานยิ่งขึ้น

แก้วเก็บความเย็น แตกต่างจากแก้วธรรมดาอย่างไร

แก้วเก็บความเย็น คือ แก้วที่สามารถกักเก็บอุณหภูมิของเครื่องดื่ม ทั้งเครื่องดื่มร้อนและเครื่องดื่มเย็นไว้ได้นานหลายชั่วโมง โดยแก้วเก็บความเย็น จะมีฝาเปิด-ปิดซิลิโคนที่หนาแน่นเป็นพิเศษ เพื่อป้องกันการไหลเวียนของอากาศ ระหว่างด้านในกับด้านนอกของแก้ว ทำให้น้ำแข็งละลายช้าลง และทำให้เครื่องดื่มร้อนยังอุ่นอยู่เสมอ 

โดยส่วนมากแก้วเก็บความเย็นที่นิยมใช้ในปัจจุบัน จะทำมาจากวัสดุสเตนเลส 304 แบบ Food Grade จึงแข็งแรง ทนทาน ไม่มีสารปนเปื้อนที่เป็นอันตราย ต่างจากแก้วปกติ ที่เป็นวัสดุพลาสติก มีข้อจำกัดที่ไม่สามารถเก็บความร้อนและความเย็นได้ดีเท่าแก้วเก็บความเย็น และหากทำตกก็อาจแตกหรือเสียหายได้ง่าย

แก้วเก็บความเย็นไม่ควรใส่เครื่องดื่มอะไร

ถึงแก้วเก็บความเย็นจะใส่ได้ทั้งเครื่องดื่มร้อนและเย็น แต่ก็มีเครื่องดื่มบางประเภทที่ไม่ควรนำมาใส่ ซึ่งแก้วเก็บความเย็นหรือแก้วสเตนเลสจะห้ามใส่เครื่องดื่มอะไรบ้าง มาดูกัน

  • นม เพราะกรดอ่อนของนม จะทำให้สารเคลือบผิวหลุดมาปนในเครื่องดื่ม หากเก็บนานเกินไป จะกลายเป็นแหล่งเพาะเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้ท้องเสีย รวมถึงกลิ่นก็อาจติดอยู่ในแก้วด้วยเช่นกัน
  • น้ำผลไม้ ควรหลีกเลี่ยงการใส่แก้วสเตนเลสเช่นเดียวกับนม เนื่องจาก น้ำผลไม้มีน้ำตาลและความเป็นกรดเล็กน้อย ที่อาจกัดกร่อนสารเคลือบผิวจนหลุดมาปนในเครื่องดื่ม และเป็นอันตรายต่อร่างกาย
  • เครื่องดื่มโซดา อีกหนึ่งเครื่องดื่มที่หลายคนนิยมใส่ในแก้วเก็บความเย็น ไม่ว่าจะเป็น น้ำโซดา น้ำอัดลมธรรมดา และน้ำอัดลมสูตรน้ำตาล 0% ซึ่งโซดามีฤทธิ์กัดกร่อนเช่นเดียวกับน้ำผลไม้ หากใช้ไปนานๆ ก็อาจส่งผลเสียที่เป็นพิษต่อร่างกายของเรา
  • เครื่องดื่มที่อุณหภูมิสูงเกินไป ถึงแก้วเก็บความเย็นจะใส่ได้ทั้งเครื่องดื่มร้อนและเย็น แต่ก็ยังมีข้อควรระวังในการใช้งาน คือ ไม่ควรนำแก้วเก็บความเย็นใส่เครื่องดื่มอุณหภูมิร้อนเกิน 85 องศาเซลเซียส เพราะการใส่น้ำร้อนมากเกินไป จะทำลายวัสดุเคลือบผิวและทำให้น้ำเสียรสชาติ
วิธีล้างแก้วเก็บความเย็นให้สะอาดหมดจด ขจัดกลิ่น

วิธีล้างแก้วเก็บความเย็นให้สะอาดหมดจด ขจัดกลิ่น

เมื่อใช้งานแก้วเก็บความเย็นไปนานๆ ก็จะเจอปัญหาที่มักพบในแก้วเก็บความเย็น คือ พวกคราบสกปรก แก้วมีกลิ่นอับ และแก้วเก็บความเย็นเป็นสนิม ซึ่งสามารถล้างแก้วเก็บความเย็นได้หลายวิธี ดังนี้

ล้างด้วยน้ำอุ่น

การล้างด้วยน้ำอุ่น คือ วิธีล้างแก้วเก็บความเย็นที่สามารถจัดการได้ง่ายๆ โดยการใช้ฟองน้ำ ชุบน้ำอุ่น แล้วเช็ดทำความสะอาดรอยเปื้อนเบาๆ โดยถูไปในทิศทางเดียวกัน และล้างออกด้วยน้ำสะอาด ซึ่งวิธีนี้จะช่วยทำความสะอาดคราบสกปรก ทั้งฝุ่น คราบดิน และรอยนิ้วมือ 

ล้างด้วยน้ำยาล้างจาน

การล้างแก้วเก็บความเย็นด้วยน้ำยาล้างจาน โดยการใช้ฟองน้ำนุ่มๆ ผสมกับน้ำยาล้างจาน ถูทำความสะอาด และล้างออกด้วยน้ำสะอาด ก็เป็นวิธีล้างแก้ว เพื่อไม่ให้เป็นคราบน้ำ และขจัดกลิ่นไม่พึ่งประสงค์ของนม หรือกาแฟได้ ที่สำคัญ ไม่ควรใช้แปรงขัดล้างภายในแก้ว เพราะจะทำให้ชั้นผิวเป็นรอย สารเคลือบผิวหลุด ทำให้เกิดสนิมได้

ล้างด้วยเบกกิ้งโซดา

สำหรับวิธีล้างด้วยเบกกิ้งโซดา คือ การล้างด้วยน้ำเปล่ากับเบกกิ้งโซดา เนื่องจากเบกกิ้งโซดา มีฤทธิ์เป็นด่างอ่อนๆ จึงช่วยล้างคราบได้ดี โดยนำเบกกิ้งโซดา 1-2 ช้อนโต๊ะ มาละลายในน้ำเปล่า แช่ส่วนผสมทิ้งไว้ในแก้ว ประมาณ 2 – 3 ชั่วโมง หลังจากนั้นให้ล้างด้วยน้ำยาล้างจานและน้ำสะอาด นอกจากจะเป็นวิธีล้างคราบกาแฟ คราบนมในแก้ว ก็ยังช่วยขจัดกลิ่นภายในแก้วได้ด้วย

ล้างด้วยน้ำส้มสายชู

เนื่องจากน้ำส้มสายชู มีฤทธิ์เป็นอ่อน ทำให้การล้างด้วยน้ำส้มสายชู สามารถขจัดคราบที่สะสมให้หลุดออกได้ โดยเทน้ำส้มสายชูกับน้ำเปล่า ลงไปในแก้วในสัดส่วนที่เท่ากัน แช่ทิ้งไว้ประมาณ 15-30 นาที ล้างออกด้วยน้ำยาล้างจาน และล้างน้ำอุ่น ถึงค่อยตากไว้ให้แห้ง

ล้างด้วยผงขัด

วิธีล้างทำความสะอาดแก้วเก็บความเย็นด้วยผงขัดสเตนเลส สามารถขจัดคราบสิ่งสกปรกฝั่งแน่นที่ติดอยู่ เช่น รอยเปื้อนสี หรือสิ่งสกปรกแข็งๆ สามารถใช้ฟองน้ำเปียกหมาด จุ่มผงขัด และนำมาถูรอยเปื้อนหรือคราบ แนะนำให้ถูไปในทิศทางเดียวกัน ไม่ควรถูกวนไปมา เมื่อเสร็จแล้วล้างด้วยน้ำเปล่าหรือน้ำยาล้างจาน และเช็ดให้แห้ง เป็นวิธีที่สามารถทำความสะอาดคราบลึกฝั่งแน่นที่ติดอยู่ให้ออกได้ง่ายดาย

ใช้เม็ดฟู่

การใช้เม็ดฟู่ทำความสะอาดฟันปลอม เพื่อทำความสะอาดแก้วเก็บความเย็น คือ อีกหนึ่งวิธีการล้างคราบกาแฟในแก้วเก็บความเย็น ที่ช่วยประหยัดเวลาในการล้าง โดยเติมน้ำอุ่นลงในแก้วน้ำ ใส่เม็ดฟู่ลงประมาณ 2-3 เม็ด วางทิ้งไว้ประมาณ 15-30 นาที จนฟองหมด จากนั้นเขย่าแก้วให้ทั่ว แล้วค่อยล้างออกด้วยน้ำสะอาด ก็จะช่วยให้คราบชา กาแฟหลุดออกได้ง่ายๆ โดยที่ไม่ต้องออกแรงขัด

ล้างด้วยน้ำยาบ้วนปาก

การใช้น้ำยาบ้วนปาก นอกจากจะช่วยทำความสะอาดช่องปาก ก็ยังสามารถขจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้อีกด้วย ซึ่งวิธีแก้กลิ่นอับที่ติดแก้ว คือ ใส่น้ำยาบ้วนปากและน้ำสะอาด ในอัตราส่วน 1 ต่อ 4 แช่ทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที หรือแช่ทิ้งข้ามคืน จากนั้น ล้างออกด้วยน้ำยาล้างจานและน้ำเปล่าตามปกติ จะช่วยให้กลิ่นอับ กลิ่นไม่พึงประสงค์ อย่างชา กาแฟ หรือกลิ่นอื่นๆ ที่ติดมาจางลงได้

คำแนะนำสำหรับการล้างแก้วเก็บความเย็น

สำหรับวิธีล้างทำความสะอาดแก้วเก็บความเย็น สามารถล้างด้วยมือได้ คือ ใช้น้ำยาล้างจานผสมกับน้ำเปล่าสะอาด แล้วเช็ดถูเบาๆ จากนั้นล้างออกด้วยน้ำสะอาด หรือเครื่องล้างจานได้ ซึ่งในการล้าง ควรถอดแยกชิ้นส่วนออกมาล้างทุกชิ้น ทั้งฝาซิลิโคน ที่รองแก้ว หลอด แล้วผึ่งให้แห้งเผื่อป้องกันการเกิดเชื้อรา

วิธีดูแลแก้วเก็บความเย็น

วิธีดูแลแก้วเก็บความเย็น

นอกจากวิธีล้างทำความสะอาดแก้วเก็บความเย็น ก็ควรดูแลแก้วเก็บความเย็นให้ถูกวิธี กับสิ่งที่ควรทำและไม่ควรทำกับแก้วเก็บความเย็น เพื่อช่วยดูแล ยืดอายุการใช้งานให้ใช้งานได้นานๆ

ล้างแก้วเก็บความเย็นเป็นประจำ

หากมีการใช้แก้วเก็บความเย็น ใส่น้ำดื่ม น้ำหวาน ชา และกาแฟ ควรล้างแก้วเก็บความเย็นเป็นประจำทุกครั้งหลังใช้งาน และตากให้แห้งทุกครั้ง เพื่อป้องกันไม่ให้มีคราบสกปรกจากชา หรือกาแฟติดอยู่ที่แก้วน้ำ ซึ่งเป็นวิธีที่ช่วยแก้ปัญหากลิ่นติดแก้วได้อีกด้วย

ใช้อุปกรณ์ล้างแก้วเก็บความเย็นให้เหมาะสม

การเลือกใช้อุปกรณ์ให้เหมาะสมกับการล้าง ก็เป็นสิ่งสำคัญสำหรับวิธีล้างแก้วเก็บความเย็น หากใช้อุปกรณ์ไม่เหมาะสมในการล้าง เช่น แปรงขดลวดทำความสะอาด หรือฝอยขัดหม้อ ก็จะทำให้พื้นผิวเป็นรอยขีดข่วน ทำให้สารเคลือบผิวหลุดออก และส่งผลต่อประสิทธิภาพการกักเก็บอุณหภูมิ ดังนั้น จึงควรทำความสะอาดด้วยฟองน้ำนุ่มๆ และถูเบาๆ ก็เพียงพอต่อการทำความสะอาด และยังช่วยยืดอายุการใช้งาน ให้ใช้งานได้นานขึ้น

มีพื้นที่จัดเก็บที่สะอาด

ทุกครั้งหลังทำความสะอาดเสร็จ ควรนำแก้วเก็บความเย็น และชิ้นส่วนต่างๆ ไปตากแห้งทุกครั้งบนพื้นที่ที่เสมอกัน เพื่อป้องกันไม่ให้ล้ม ตกหล่นกระแทกจนเสียหาย นอกจากนี้ การตากแห้งก็ยังช่วยป้องกันไม่ให้แก้วเก็บความเย็นเป็นสนิมอีกด้วย และเมื่อแห้งแล้ว ก็เช็ดด้วยผ้าอีกรอบ ก่อนที่จะนำไปเก็บในพื้นที่ที่สะอาด  เช่น ตู้เก็บแก้วหรือชั้นวางแก้ว เพื่อป้องกันไม่ให้แก้วเก็บความเย็นเกิดคราบฝุ่นสะสม

ปิดฝาให้สนิทหลังจากเปิดดื่ม

นอกจากวิธีล้างแก้วเก็บความเย็นให้ถูกต้อง ก็ควรใช้งานแก้วเก็บความเย็นให้ถูกต้อง เพราะแก้วเก็บความเย็นรูปแบบต่างๆ ถูกออกแบบมาให้มีฝาเปิด-ปิด ที่ง่ายต่อการใส่เครื่องดื่ม ช่วยป้องกันสิ่งสกปรกตกลงในเครื่องดื่ม ช่วยกักเก็บอุณหภูมิเครื่องดื่มทั้งร้อนและเย็น ทำให้รสชาติเครื่องดื่มยังอร่อยอยู่เสมอ ดังนั้น หลังดื่มทุกครั้งควรปิดฝาให้สนิท เพื่อป้องกันไม่ให้อากาศไหลเวียนเข้าไปภายในแก้วจนทำให้อุณหภูมิเครื่องดื่มและรสชาติเปลี่ยนไป

ไม่ทำแก้วเก็บความเย็นตกหรือหล่น

ม่ควรทำแก้วเก็บความเย็นตก หรือหล่นเด็ดขาด เพราะแรงกระแทก ทำให้แก้วเป็นรอยขีดข่วน รอยแตก รอยรั่ว อาจส่งผลต่อการเก็บความร้อนความเย็นของแก้วน้ำ และไม่สามารถนำมาใช้งานได้อีก

ไม่ใช้แก้วเก็บความเย็นเพื่อชงเครื่องดื่ม

ไม่ควรใช้แก้วเพื่อชงเครื่องดื่มร้อนและเครื่องดื่มเย็น เพราะการนำช้อนหรือที่ชง ไปชงเครื่องดื่มภายในแก้ว จะทำให้แก้วเกิดรอยขีดข่วน ดังนั้น หากต้องการชงเครื่องดื่ม ควรชงจากแก้วอื่นก่อน แล้วค่อยเทใส่แก้วเก็บความเย็น ก็จะช่วยยืดอายุการใช้งานของแก้วน้ำ

สรุป

แก้วเก็บความเย็น คือ แก้วที่ใส่ได้ทั้งเครื่องดื่มร้อนและเครื่องดื่มเย็น มีลักษณะเป็นแก้วสเตนเลสรูปทรงต่างๆ มีฝาเปิด-ปิดซิลิโคน และอาจมีอุปกรณ์เสริมที่เป็นหลอด และที่รองแก้ว ในทุกครั้งหลังการใช้งาน ควรล้างทำความสะอาดเป็นประจำ เพื่อป้องกันกลิ่นอับ และคราบชา กาแฟที่สะสมจนส่งผลเสียต่อสุขภาพ ซึ่งวิธีล้างแก้วเก็บความเย็น ทำได้ง่ายๆ โดยใช้ฟองน้ำผสมกับน้ำยาล้างจาน แล้วถูทำความสะอาดรอบๆ แก้ว จากนั้นล้างออกด้วยน้ำสะอาด คว่ำตากให้แห้งทุกครั้ง ก็สามารถช่วยป้องกันสนิมได้ อีกทั้งยังช่วยดูแลให้แก้วสะอาด ไม่มีกลิ่น ใช้งานได้ยาวนาน

ใครที่อยากส่งต่อแก้วเก็บความเย็นให้เป็นของขวัญหรือของที่ระลึก สามารถสั่งผลิตกับทาง GIFTWISE ได้ ที่นี่มีแก้วเก็บความเย็นพรีเมียม สกรีนโลโก้ได้ มีบริการครบวงจรตั้งแต่การออกแบบ ผลิต ไปจนถึงจัดส่ง พร้อมรับประกันสินค้าให้ด้วย